“เทน ฮาก” เล็งคว้า 3 แข้งดาวรุ่ง “อาแจ็กซ์”
สื่ออังกฤษเปิดเผย เทน ฮาก หวังดึง 3 แข้งดาวรุ่งฟอร์มแรกของ อาแจ็กซ์ มาร่วมงานด้วยอีกรอบที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มกราคมนี้
ข่าวโคมลอยว่า เอริก เทน ฮากผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการตัวอดีตลูกทีมมาร่วมงานกันอีกรอบยังคงมีสม่ำเสมอ โดยล่าสุด เมโทร สื่ออังกฤษกล่าวว่ากุนซือชาวฮอลแลนด์
ยังอยากได้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เซ็นเตอร์แบ็กวัย 21 ปีที่ผลงานโดดเด่น รวมทั้ง เดวีน เรนช์ แบ็กขวาวัยเพียงแต่ 19 ปี ที่เป็นเด็กปั้นของอาแจ็กซ์ และ เคนเนธ เทย์เลอร์ กองกลางวัย 20 ปี ผลิตผลจากอะคาเดมี่ด้วยเหมือนกัน
เป้าหมายของ เทน ฮาก คือต้องการลดอายุเฉลี่ยของทีม เพื่อสร้างขุมกำลังไว้ใช้งานในระยะยาว ซึ่งการมองหาดาวรุ่งที่คุ้นเคย ทำให้ใช้เวลาปรับตัวไม่มากทั้งยังในรวมทั้งนอกสนาม แต่โอกาสที่ อาแจ็กซ์ จะยอมปล่อยผู้เล่นคนสำคัญไปพร้อมเป็นไปได้ยาก
เว้นเสียแต่ 3 คนนี้แล้ว เทน ฮาก มองนักเตะคนอื่นๆในลีกชาวฮอลันดา รวมทั้ง มาร์คุส ตูราม หนึ่งในดาวรุ่งฝรั่งเศสที่กำลังได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป แต่เจ้าตัวยังอยากอยู่กับ โบรุสเซีย มึนดังเช่นว่ากลัดบัค กระทั่งจบฤดูกาล
ใครคือ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ? ว่าที่กองหลังตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
เอริค เทน ฮาก คือว่าที่กุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า แล้วก็มันก็มีการคาดหมายเอาไว้ว่าน้าแกจะหนีบลูกศิษย์ที่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตามมาสบทบที่นี่ด้วย
หนึ่งในคนที่มีข่าวด้วยตอนนี้ก็คือ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ โดยเหตุนี้เมื่อได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในว่าที่ขุนพลคนใหม่ของ “ปีศาจแดง” วันนี้สิ่งที่ “ขอบสนาม” ต้องการนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไอ้หมอนี่กันครับ
ประวัติพอสังเขป
เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ชื่อจริง ๆ คือ เยอร์เรียน ดาวิด นอร์มาน ทิมเบอร์ เกิดวันที่ 17 มิถุนายน ปี 2001 ที่ อูเทร็คท์ ประเทศฮอลแลนด์ ปัจจุบันนี้อายุ 20 ปี ส่วนสูง 179 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต 10 นิ้ว น้ำหนัก 79 กิโลกรัม ถนัดเท้าข้างขวา ประจำการในตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันนี้สังกัดอยู่กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้สวมเสื้อหมายเลข 2 และก็เป็นผู้เล่นที่มีเอเยนต์อยู่ในเครือของ ฟอร์ซ่า สปอร์ตส์ กรุ๊ป
แฝด
ไม่ใช่แค่ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่เป็นนักฟุตบอลคนเดียวของของครอบตัว แต่อีกหนึ่งฝาแฝดคลานตามกันมาอย่าง ฮวนเต็น ทิมเบอร์ ก็เดินบนเส้นทางสายลูกหนังเหมือกัน ทั้งสองต่างก็เป็นเริ่มความฝันกับ ดีวีเอสยู ตั้งแต่ปี 2006 ก่อนที่จะย้ายมาปลุกปั้นรวมทั้งยกระดับฝีเท้าตัวเองต่อที่ เฟเยนูร์ด ร็อทเธอร์ดัม ในปี 2008 จากนั้นก็มาลงเอยกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในปี 2014
ทั้งยัง เยอร์เรียน รวมทั้ง ฮวนเต็น ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมสำรองจองอาแจ็กซ์ พร้อมกันเมื่อปี 2018 โดยรายแรกได้ลงเล่นไป 39 นัด และก็รายหลังได้ลงเล่นไป 40 นัด ทว่าคนที่ดูได้ดิบได้ดีมากกว่าก็คือเจ้า เยอร์เรียน ที่ได้โอกาสกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 ก่อนที่ 2 ฤดูกาลหลังสุดจะพิสูจน์ตนเองจนกระทั่งกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม ได้ลงเล่นไป 70 นัด ยิงได้ 4 ประตู และทำไป 1 แอสซิสต์
ส่วนทาง ฮวนเต็น เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เขายังไม่เคยได้โอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อ อาแจ็กซ์ชุดใหญ่แม้แต่นัดเดียว ก่อนที่จะถูกขายขาดให้กับ อูเทร็คท์ คู่แข่งร่วมลีกไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ชีวิตในวัยเด็ก
คุณพ่อกับคุณแม่ของ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ต่างก็มีเชื้อสายของ คูราเซา และ อารูบัน มาจากหมู่เกาะ เอบีซี ทางชายฝั่งแคริบเบียนของ ฮอลแลนด์ แต่ด้วยปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคนเป็นพ่อกับคนแม่เป็นอย่าง แมรี่ลิน สมัยที่ เยอร์เรียน ยังเด็กก็เลยทำให้เปลี่ยนมาใช้นามสกุล ทิมเบอร์ ของคุณแม่จนกระทั่งทุกวันนี้ นี่เป็นการแสดงให้มีความคิดเห็นว่าสมัยยังเด็กไอ้หมอนี่ต้องเจอกับชีวิตที่ยากลำบากมาไม่น้อย
ถึงครอบครัวจะดูไม่สมบูรณ์แบบแต่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเส้นทางในการเติบโตของเขาแถมยังอยู่ดีมีความสุขกับคุณแม่ที่ต้องเรียกลูก 5 คนเพียงคนเดียว เพราะจาก เยอร์เรียน กับ ฮวนเต็ง ที่เป็นฝาแฝดกันแล้ว หารู้ไม่ว่าพวกเขายังมีพี่ชายอีกสามคนนั่นก็คือ ชาภรรยาร์, คริส รวมทั้ง ดีแลน
ผลงานกับ อาแจ็กซ์
ย้อนกลับไปวันที่ 7 มีนาคม ปี 2020 นั่นคือวันที่ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้โอกาสประเดิมสนามเกมแรกในสีเสื้ออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ชุดใหญ่ซึ่งเป็นนัดที่ต้นสังกัดสามารถเอาชนะ ฮีเรนวีน ไป 2-1 แถมยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วย ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาที 82 เพราะเหตุว่ามีปัญหาอาการบาดเจ็บและก็เป็น เอดสัน อัลวาเรซ ที่ได้ลงมาแทนที่
ฤดูกาล 2020-21 เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เริ่มได้โอกาสมากขึ้นหลังพิสูจน์ตนเองได้ดี พี่แกได้ลงเล่นไป 30 นัด ทำได้ 1 ประตูซึ่งการเปิดซิงประตูแรกในสีเสื้ออาแจ็กซ์ เกิดขึ้นในวันที่ถล่ม เอมเมน 4-0 และก็จากผลการแข่งขันในวันนั้นก็ทำให้อาแจ็กซ์ ผงาดเถลิงบัลลังก์แชมป์ เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ สมัยที่ 35 มาครองได้สำเร็จ
ด้วยวิวัฒนาการที่เยี่ยมและผลงานที่ดีคงเส้นคงวามันก็เลยทำให้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัดในฤดูกาล 2021-22 ทำได้ 3 ประตู และก็กดไป 1 แอสซิสต์ และก็ตอนนี้ก็กำลังพาอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ครองจ่าฝูงของลีก แล้วก็มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 36 ด้วย
สไตล์การเล่น
เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กโดยธรรมชาติ มีความเป็นกองหลังในสมัยใหม่เพราะเหตุว่ามีการผสมผสานกันระหว่างความแข็งแกร่งทางกายภาพและก็ความแคล่วคล่องว่องไวยามมีบอลอยู่กับเท้า มีความชำนาญที่ดีในการครองบอล อ่านเกมขาด ตลอดจนการเข้าบอลที่ว่องไว พวกสื่อดัง ๆ ต่างก็เอาชื่อของเขาไปเปรียบเทียบเทียบกับ 2 กองหลังที่ดีที่สุดแห่งยุคไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รวมไปถึง เซร์คิโอ รามอส
นอกจากนั้นด้วยความสามารถทางด้านความกระปรี้กระเปร่ารวมทั้งการเคลื่อนที่ได้ดีมันก็เลยทำให้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ สามารถโยกไปยืนเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กกว่าก็เป็นได้ แถมยังมีฟอร์มที่ดีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเด็กเก่งและมีความสารพัดประโยชน์มากๆเลยทีเดียว
ทีมชาติ
อย่างที่เกริ่นว่า เยอร์เรียน มีเชื้อสาย คูราเซา และก็ อารูบัน เท่ากับว่าเจ้าตัวมีโอกาสเลือกรับใช้ 2 ชาตินี้ได้ แต่ด้วยความที่พี่แกลืมตาดูโลกบนแผ่นดินเนเธอร์แลนด์ก็เลยทำให้เขาตัดสินใจรับใช้ ทีมชาติฮอลแลนด์ ส่วนโอกาสการติดธงครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 กับรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
ก่อนที่จะไล่มา ยู-19 รวมทั้ง ยู-21 ในอีก 3 ปีให้หลัง ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 24 เกม ทำได้ 2 ประตู ตอนอายุราว20 ปี เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เคยได้โอกาสสัมผัสกับถ้วยแชมป์ ยูโร มาแล้ว แต่เป็นกับทีมรุ่นอายุไม่เกิด 17 ปีเมื่อปี 2018 ส่วนโอกาสกับกองทัพ “อัศวินสีส้ม” ชุดใหญ่นั้น
เจ้าตัวได้ประเดิมสนามในเกมเตรียมพร้อมในเกมที่อุ่นเครื่องกับ สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปีที่แล้ว แน่นอนว่าสำหรับ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ก็เป็นหนึ่งในขุนพล ทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดลุยศึก ยูโร 2020 ด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวนี้พี่แกได้โอกาสติดธงไปแล้วทั้งสิ้น 6 นัดด้วยกัน
ทีมที่สนใจ
สื่อในสเปนอย่าง TodoFichajes เคยตีข่าวออกมาว่า 2 ทีมจากเมืองหลวงอย่าง แอตเลติโก มาดริด รวมทั้ง เรอัล มาดริด ต่างก็เคยแสดงความสนใจในตัวเจ้า เยอร์เรียน ทิมเบอร์ อย่างไรก็ตามกระแสตอนนี้ราวกับจะหนักไปทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังจะได้ เอริค เทน ฮาก ไปเป็นนายใหญ่คนใหม่คอยบัญชา ในฤดูกาลหน้า โดย แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ รวมถึงสื่อดังอีกหลายสำนักค่อนข้างจะดูไปในทางเดียวกันว่านี่น่าจะเป็นการเซ็นสัญญารายแรกของ “ปีศาจแดง” เพื่อไปช่วยแก้ไขปัญหา ในแนวรับที่กำลังย่ำแย่ถึงขีดสุด