Category ข่าววันนี้

4 หนุ่ม F4 Thailand

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมายชี้แจงการสัมภาษณ์ 4 หนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมายแจกแจงการสัมภาษณ์ 4 หนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

จากกระแสในโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับนักแสดงนำ F4 อย่าง “ไบร์ท, วิน, ดิว และก็ นานิ” บินไปงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไต้ หวัน รวมทั้งในบางตอนบางตอนมีรายงานข่าวสารว่านักแสดงกินบิสกิตระหว่างการสัมภาษณ์ รวมทั้งมาสาย และไม่มีการขอโทษที่มาช้า ผู้จัดบอกเพียงแค่แต่ว่าเกิดจากความล่าช้า เนื่องจากว่าแต่งหน้าทำผม แล้วก็มีอีกหลายข้อความสำคัญตามที่ข่าวสารได้เสนอไป

ก่อนหน้าที่ผ่านมา ในเวลาต่อมาแฟนคลับหลาย ๆ คนเกิดเรื่องที่น่าสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นประสานงานคลาดเคลื่อนหรือเปล่า พร้อมแท็กไปยังต้นสังกัดให้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้

ล่าสุดต้นสังกัด GMM TV ได้ร่อนจดหมายอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…

“จากกรณีที่มีการพูดถึงในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทขอชี้แจงดังต่อไปนี้

1. ประเด็นเรื่องการมาสัมภาษณ์ล่าช้า การสัมภาษณ์ได้เกิดการล่าช้ากว่ากำหนดการจริง เนื่องมาจากไฟล์ทบินดีเลย์ จึงทำให้สัม ภาษณ์ล่าช้ากว่าเวลาที่นัดหมาย โดยทางผู้จัดงานได้แจ้งกับนักข่าวให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ทั้งนี้บริษัทขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้

2. เรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของศิลปีนโดยมีการรับประทานขนมในระหว่างการสัมภาษณ์ เนื่องจากมีการเข้าใจผิดในการสื่อสารและประสานงานของทีมงาน ทำให้ศิลปินมีความเข้าใจว่าในช่วงต้นยังเป็นช่วงของการเตรียมความพร้อมและยังไม่ได้เริ่มถ่ายภาพและสัม ภาษณ์ จึงทำให้มี การรับประทานขนม ในช่วงเวลาระหว่างรอ ทั้งนี้เมื่อได้มีการ ชี้แจงให้ศิลปินทราบ ทางศิลปิน จึงเตรียมพร้อม ให้สัมภาษณ์ กับทางสื่อมวลชนต่อตามปกติ โดยทีมงานจึงได้แจ้งสื่อมวลชนขอให้ไม่ใช้ภาพดังกล่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศิลปินและบริษัทขอน้อมรับผิดที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับหลายๆ ฝ่าย และจะระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งจะมีการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด 5 กุมภาพันธ์ 2566
และยังเขียนข้อความอีกว่า… “GMMTV ขอชี้แจงเกี่ยวกับประ เด็นการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป GMMTV Statement Regarding the Incidents During the Interview on February 4 in Taipei #GMMTV”

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมาย

รู้จักซีรีส์สุดฮอต F4 Thailand นักแสดงมีใครบ้าง-เรื่องย่อเป็นอย่างไร?

กำลังเป็นกระแสกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับซีรีส์ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว โดยละครเรื่องนี้ถือเป็นละครอมตะตลอดกาล เรียกได้ว่าไม่มีเด็ก ๆ ยุค 90 คนไหนที่ไม่รู้ ซึ่ง หัวใจรักสี่ดวงดาว ของเมืองไทย ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น ของโยโกะ คามิโอะ ซึ่งมีชื่อเดิม สาวแกร่งแรงเกินร้อย ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ของประเทศไต้หวัน ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่โด่งดังเป็นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย กระทั่งมีรีเมกอีกครั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แล้วก็ จีน

โดย F4 : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ได้ถูกนำมารีเมกในประเทศไทยอีกรอบ
นำแสดงโดย “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์” สำหรับนางเอกคือ“ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล”

F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ออกอากาศทางช่องGMMTV
และย้อนหลังทางวิว ทุกวันเสาร์เวลา 20:30 น. ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. ปีที่แล้ว

F4 Thailand

เรื่องย่อ “ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว”

เรื่องราวของ “กอหญ้า” (ตู-ต้นตะวัน) เด็กสาวมัธยม5 ชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ คนหนึ่ง ครอบครัวของเธอมีฐานะที่อดอยาก จนทำให้เธอต้องทำงานเสริมที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งกับ “คะนิ้ง” (รับบทบาทโดย พรีม-ชนิกานต์) เพื่อนสนิทของเธอ ชีวิตของกอหญ้าเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและไม่มีอะไรโดดเด่น
จะมีก็แค่อย่างเดียวคือเธอดันสอบติดโรงเรียนหรูมีชื่อ จน เธอกลายเป็นความหวังของครอบครัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่โลกของนักเรียนไฮโซมันเข้าใจคิด
รวมทั้งน่ารำคาญในสายตาของเธอ เธอเลยตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตเงียบ ๆ และไม่โดดเด่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นชีวิตที่ต่างกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

“ธาม” (ไบร์ท-วชิรวิชญ์) “เร็น” ( ดิว-จิรวรรตน์) “กวิน” (วิน-เมธวิน) “เอ็มเจ” (นานิ-หิรัญกฤษฎิ์) กลุ่มรุ่นพี่ม.6 ในโรงเรียน ที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ F4 พวกเขาเป็นหนุ่มสุดหล่อลูกเจ้าของธุรกิจหลายหมื่นล้าน เป็นผู้ชายสี่คนที่ส่องแสงและก็มีอำนาจมากที่สุดในโรงเรียน ใคร ๆ ต่างก็จับจ้องไปที่พวกเขา
ทั้งยังที่ตามความจริงพวกเขาตั้งตัวเป็นอันธพาลในโรงเรียนอย่างลับ ๆ และก็พร้อมจะกลั่นแกล้งทุกคนที่ขวางหูขวางตาพวกเขาอย่าง
ร้ายแรง ผ่านเกม“การติดใบแดง” ไม่มีใครทำอะไ รพวกเขาได้ นักเรียน คนอื่น ๆ ก็ต่างเห็นดี มองเห็นงามไปกับ พวกเขาด้วย
อย่างกับว่าโลกใบนี้อยู่ในกำมือ ของพวกเขาอย่างไร อย่างนั้น และก็กอหญ้าก็เกลียดสิ่งนี้มาก

แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เธอต้องยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา ทั้งกับ “ธาม” ผู้นำของกลุ่มที่ดูเสมือนจะสนใจในตัวเธอและกลั่นแกล้งเธออย่างหนัก
อีกทั้งกับ “เร็น” ผู้ชายเงียบ ๆ โลกส่วนตัวสูงแต่กลับมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์

ต้นสังกัด GMM TV

แล้วก็สุดท้ายคนอย่างเธอ

ก็กำลังจะกลาย เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว ทุกอย่าง เป็นโลกอีกใบ ที่ทำให้เธอได้ทราบว่าชีวิตวัยรุ่นมันไม่เคยง่ายเลย รวมทั้งมันอาจง่ายกว่านี้ หาก “เร็น” ไม่ได้ตกหลุมรัก “มิรา” ( ฟ้า-ยงวรี) รุ่นพี่ผู้หญิง ที่ทั้งยังสวย แถมยังอยู่ใน เชื้อสายที่เด่น รวมทั้งใจดี
ไม่เหมือนกับเธออย่างทั้งมวลและก็ถ้า “คะนิ้ง” ไม่ได้ตกหลุมรักหนุ่มเจ้าชู้ที่มองเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นของเล่นอย่าง
“กวิน” และไม่มีวันหลงเสน่ห์ ผู้หญิงบ้าน ๆ อย่างเธอ และ หาก “ธาม” ไม่ได้ถูก คาดหวังจาก “รสลิน” (ซินดี้-สิรินยา) นักธุรกิจหญิงเหล็กแม่แท้ ๆ ของเขา ที่ไม่มีทางยอมชีวิตของ “ธาม” ออกไปนอกกรอบที่เธอได้วางเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรัก แต่ “กอหญ้า” เองก็กลับค่อย ๆ ใจเต้นแรงกับ
“ธาม” โดยไม่รู้สึกตัว

หากชีวิตวัยรุ่นคือช่วง วัยที่ฉายแสงมากที่สุด นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังจะผ่านช่วงวัยรุ่นอันแสนเจิดจ้านี้ไปท่ามกลางหนุ่มที่ทุกคนเฝ้ามอง ก้าวผ่านอุปสรรค ความผิดพลาด มิตรภาพ กำลังใจ ความสุข ความทุกข์ และก็ได้ทำความเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า ความรัก ก่อนที่พวกเขาจะจับมือก้าวไปสู่โลกของผู้ใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน

รัฐประหารใน พม่า

2 ปี รัฐประหารพม่า อำนาจในเงื้อมมือทหาร คำมั่นจัดเลือกตั้ง แค่เรื่องจอมปลอม

ผ่านไป 2 ปี รัฐประหารใน พม่า จากน้ำมือพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย คนออกคำสั่งการทหารสูงสุดเมียนมา นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของออง ซาน ซูจี ภายหลังพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ชนะการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. 2563 อย่างถล่มทลายจนครองเสียงข้างมาก จัดเตรียมจะเปิดประชุมสภาครั้งแรกภายใน 90 วัน

ท่ามกลางกลิ่นรัฐประหารโชยมา แล้วก็แล้วก็เป็นจริง เมื่อกองทัพอ้างความยุติธรรมในการก่อรัฐประหารเมื่อเช้าตรู่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ระบุว่า มีการคดโกงลงคะแนน และเข้าจับกุมตัวออง ซาน ซูจี รวมทั้งนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง ส่วนอีกหลาย ๆ คนสามารถหลบหนีไปได้ รวมทั้งภายหลังได้ตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ มาจากหลากหลายชาติพันธุ์ เพื่อคานอำนาจกองกองทัพเมียนมา

พลเอกรัฐประหารใน พม่า รัฐประหาร สงครามพม่า
การก่อรัฐประหาร พม่า ทำให้เกิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี

แต่งตั้งพลเอกมินต์ ส่วย รองประธานาธิบดี ทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการ ต่อมามีการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเป็น 2 ปี 6 เดือน และก็ยังเป็นเหตุให้เมียนมาเกิดการนองเลือดทั่วแผ่นดิน ผู้เห็นต่างถูกจับกุม สูญเสียชีวิต หายสาบสูญ และก็พลัดถิ่นอาศัย ซึ่งข้อมูลของ ACLED มีการเฝ้าดูความรุนแรงในหลายประเทศ เจาะจงมีผู้เสียชีวิตในเมียนมาราว 1.9 หมื่นคน

2 ปีผ่านไป กับเสียงปืนเสียงระเบิดที่ พม่า

การสู้รบเพื่อล้มล้างผู้เห็นต่าง บริเวณแนวชายแดนติดกับไทย มีเป็นช่วง ๆ สร้างความหวาดผวาให้กับชาวไทยที่อาศัยในพื้นที่ ยังไม่รวมเหตุการณ์ความรุนแรงที่บางทีอาจถูกปกปิดไม่ออกมาสู่โลกข้างนอก และต้องจับตาดูท่าทีกองกองทัพเมียนมา จะจัดการออกเสียงไม่เกินเดือน สิงหาคม 2566 นี้ ตามที่ให้คำมั่นหรือเปล่า หลังออกกฎที่ต้องปฏิบัติตามใหม่ให้เอื้อต่อพรรคสหภาพสามัคคีและก็การพัฒนา ซึ่งเป็นผู้แทนทหาร

แต่อาจไม่ง่าย เพราะสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่าเป็นเรื่องจอมปลอม
แล้วก็ถ้าเกิดมีลงคะแนนจริง ก็จะไม่ยอมรับผลการออกเสียง ซึ่งสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของ

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย

“ศ.กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู” นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เพราะเรื่องการจัดการเลือกตั้งของกองทัพเมียนมา ตามข้อสมมติฐานต่างเชื่อกันว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเมียนมา จะต้องทำตามรัฐธรรมนูญกำหนด หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสิ้นสุดไปเมื่อสิ้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการจัดเลือกตั้งใหม่ ได้วางเงื่อนไขให้ลงทะเบียนพรรคใหม่ จะต้องมีสมาชิกพรรค 1 แสนคนขึ้นไป และมีสาขาของพรรคจำนวนครึ่งหนึ่งของประเทศ ทำให้พรรคฝ่ายตรงข้ามมีปัญหาเรื่องความพร้อม

“การเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหาร จะแพ้ไม่ได้ จะต้องมีวิธีการของตัวเอง แต่หากจัดเลือกตั้งไปแล้ว มีความไม่ชอบมาพากล ความชอบธรรมไม่เกิดกับประชาชน ถูกต่อต้านไม่หยุด และไม่ยอมให้ต่างชาติมาสังเกตการเลือกตั้ง เพราะกฎกติกาไม่เป็นธรรมกับคู่แข่ง ก็เป็นไปตามข้อสมมติฐานเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง และความรุนแรงจะเกิดขึ้นอีก หากไม่แก้ปัญหาอย่างแท้จริง”

อีกทั้งฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน เพื่อแก้วิกฤติรวมทั้งยุติความร้ายแรงในเมียนมา ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ทำให้ไม่มีความน่าไว้วางใจ ไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แล้วก็คนในประเทศ จนถึงประชาคมโลกไม่ไว้วางใจว่าการลงคะแนนในลักษณะนี้จะขจัดปัญหาการขัดกันในเมียนมาได้ รวมทั้งรัฐบาลทหารเมียนมาต้องทำอะไรให้มากกว่านี้ เพื่อให้ผลการออกเสียงมีความยุติธรรม

ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่กองทัพ พม่า มีการรัฐประหาร ยังคงไม่ได้ รับการยอมรับ จาก นานาชาติ รวมทั้งอาเชียน ก็ไม่ยินยอม ให้ผู้แทนเมียนมา เข้าร่วมสัมมนา ด้วยเหตุว่าไม่ สามารถทำให้ นานาชาติ ไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้การลงคะแนน ไม่สนองตอบอย่าง ตามที่เป็นจริง ว่า รัฐบาลทหาร เมียนมา ตั้งมั่น ในหลักประชาธิปไตย รวมทั้งเมื่ออยู่ในอำนาจ ก็สามารถทำอะไรก็ได้ อย่างที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจ นานาชาติ บางครั้งอาจจะ ไม่จัดออกเสียงก็ได้ และก็ขยายสถานการณ์ ฉุกเฉินออกไปอีก เนื่องจากว่าต้องการยึดอำนาจให้อยู่ในเงื้อมมือทหาร

“คิดว่ากองทัพเมียนมามั่นใจ จะกลับมามีอำนาจได้ จากการ เลือกตั้ง หากหมดอำนาจลง ก็จะเสียประโยชน์หลายๆ อย่าง เป็นเหตุผลไม่ยอมลง จากอำนาจง่ายๆ หากโดน ตรวจสอบภายหลังก็จะเสียผลประโยชน์ และการเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหารเมียนมาไม่มีหลักประกันใดๆ เลย เพราะพฤติกรรมในอดีตไม่น่าเชื่อถือ ไม่ได้สร้างให้คนเห็นในความบริสุทธิ์ใจ ให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายต่อต้าน และเมื่อคนไม่เชื่อใจ ก็มองเป็นการเลือกตั้งจอมปลอมอยู่แล้ว หากจะให้ยอมรับต้องทำตามกฎหมาย ไม่ควรตุกติก”

พรรคสันนิบาต

หรือตราบใดที่ผู้ต้องขังทางการเมืองยังถูกจับรวมทั้งถูกจองจำ

จะทำให้การแข่งขัน ลงคะแนนไม่ยุติธรรม แล้วก็นักการเมืองของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อระบบประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ก็ยากจะชิงชัยอย่างเท่าเทียมกัน หากจะเลือกตั้งควรทำอย่างตรงไปตรงมา ต้องเลิกคุมสื่อ เลิกคุมการเคลื่อนไหวของประชาชน

แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากจะถูกโค่นล้มอำนาจโดยประชาชนที่เคยถูกปราบปราม ทำให้การลงจากหลังเสือลำบาก จากการละเมิดสิทธิมนุษยชน จัดการกับฝ่ายตรงข้าม และที่สุดแล้วรัฐบาลทหารพม่าจะอยู่ไปอีกยาว จนกระทั่งประเทศเดินถอยหลัง ทำให้ภูมิภาคของเรามีประเทศถูกตราหน้า กระทบต่อเกียรติศักดิ์ของอาเซียนไม่จบสิ้น

เต้ย MyStyle

สุดเศร้า "เต้ย MyStyle" เน็ตไอดอลชื่อดัง ป่วยซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง

“เต้ย MyStyle” เน็ตไอดอลมีชื่อ ป่วยซึมเศร้า จุดไฟรมควันดับคารถเก๋ง ขณะที่ “แม่” เดินทางมาดูศพก่อนเป็นลมร่ำไห้

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 28 มกราคม 2566 ร.ต.ท.กาจน์พศุตม์ พรวัฒนศิริกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ในซอยศุขประยูร 1 หมู่ 9 ต.นาป่า อำเภอเมือง จ.ชลบุรี ก็เลยรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี และก็กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เจอศพ นายวิษณุ ศรีสุวรรณ อายุ 27 ปี หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลมีชื่อ นอนเสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับภายในรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 สีขาว โดยเบาะหลังมีเตาอั้งโล่และก็ถุงใส่เสื้อผ้ากับถุงถ่านวางอยู่ด้วย

เต้ย MyStyle ป่วยซึมเศร้า

ต่อมา น.ส.สกุลรัตน์ จันทร์สมปอง อายุ 48 ปี มารดาคุณเต้ย

ได้เดินทางมาบริเวณจุดเกิดเหตุ พอเห็นศพก็ร่ำไห้แล้วเป็นลมไปทันที ด้านกู้ภัยฯ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งเปิดเผยว่า ลูกชายเคยบอกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่รู้ไปรักษาโรงพยาบาลไหน ส่วนยาที่กินนั้นก็ไม่เคยเห็น ต้องตรวจสอบในห้องนอนอีกครั้ง แต่เขาเคยบอกว่าเป็นหนี้จำนวนมาก ซึ่งก็ไม่เคยทราบว่าเป็นหนี้จากอะไร

จากการไต่ถามชาวบ้านที่อยู่ในซอยนั้น เปิดเผยว่า เห็นผู้ตายขับรถมาจอดตั้งแต่ช่วงเช้า รวมทั้งไม่ได้ออกไปไหน แต่ตอน 10 โมง
ยังเห็นว่าเปิดกระจกแล้วก็นั่งอยู่ในรถติดเครื่องอยู่ ก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะจอดรถไม่ได้กีดขวางทางไปมา ทราบอีกทีก็มีความคิดเห็นว่าจอดนานถึงมืดมีความคิดว่าหลับ ก็เลยพากันไปเรียก เขย่ารถแต่ไม่ตื่น ซึ่งเปิดรถออกมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต และก็ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดอีกที แต่ทางมารดาเปิดเผยว่า ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชายแต่อย่างใด เชื่อลูกเครียด

เน็ตไอดอล เสียชีวิต
เปิดโพสต์สุดท้าย “เต้ย MyStyle” ก่อนตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองในรถ

อาลัย “เต้ย” เน็ตไอดอลมีชื่อเสียงเสียชีวิตแล้ว พร้อมเปิดโพสต์ข้อความสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตในรถเก๋ง

จากกรณี นายวิษณุ ศรีสุวรรณ หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลโด่งดัง อายุ 27 ปี ป่วยโรคซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง สร้างความตกใจให้กับบรรดาเพื่อน ๆ แล้วก็แฟน ๆ จำนวนมาก

ขณะที่ เฟซบุ๊กของ “เต้ย” ได้โพสต์ภาพพร้อมใจความสุดท้ายไว้เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 เป็นภาพขณะนอนป่วยที่โรงพยาบาล พร้อมระบุว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า”

ทั้งนี้ ได้มีเพื่อน ๆ และแฟนคลับ เข้ามาโพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณเต้ยกันจำนวนมาก เช่น RIP หลับให้สบายนะครับ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี, ขอให้ไปสู่สุคตินะ ตอนนี้เพื่อนๆ มามอบกำลังใจกันเต็มเลย จากนี้ไปขอให้มีความสุข, โชคดี สักวันเราคงได้พบกัน, ขอให้เส้นทางใหม่ที่คุณตัดสินใจเลือกเดิน จงมีแต่ความสุข ความปลอดภัย อย่าได้พบเจอกับความเสียใจ เจ็บปวดอะไรอีกเลยนะ เป็นต้น

เต้ย MyStyle เน็ตไอดอล

“เต้ย Mystyle” เป็นใคร? เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกพบเสียชีวิต

ทำความรู้จัก “เต้ย” ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลมีชื่อ เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกเจอเสียชีวิต

เป็นอีกหนึ่งข่าวสารที่สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก หลังจาก “เต้ย” ถูกพบว่า เสียชีวิตภายในรถเก๋ง โดยมีแถลงการณ์ว่า มีคนเห็นรถต้องสงสัยจอดติดเครื่องยนต์
ภายในซอยมนต์ชัยเจริญยนต์ ม. 9 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เกรงเมื่อพยายามเรียกคนในรถก็ไม่มีการสนองตอบ ต่อมากู้ภัยได้ทำการงัดรถเพื่อการช่วยเหลือ เมื่อเปิดรถออกมาก็พบว่า มีกลิ่นควันคละคลุ้ง พบเต้ย นอนเสียชีวิตที่เบาะคนขับ

เต้ย Mystyle หรือ นายวิษณุ อายุ 26 ปี เป็น ดาว tikok ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลชื่อดัง
ทำคลิปยูทูป เป็นคนที่สนุกสนาน ทำคอนเทนต์ตลก หน้าตาดี พูดจาดีโดยเป็นผู้มีชื่อเสียงในกลุ่ม LGBTQ+

โพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต

เต้ย ได้โพสต์รูปและก็ข้อความในเฟซบุ๊ก เป็นภาพนอน โรงพยาบาล มี สายน้ำเกลืออยู่ที่มือ พร้อมเนื้อความเสียใจว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า” ซึ่งหลังจากข่าวสารการเสียชีวิต ทำให้มีแฟน ๆ รวมทั้ง ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างต่อเนื่อง

เดอะ เบทเทอร์

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์ จับมืออดีต บก.โพสต์ทูเดย์ ปั้นสำนักข่าวใหม่ "The Better"

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ “เดอะ เบทเทอร์” อดีต บก.โพสต์ทูเดย์จับมือผู้สืบสกุลรุ่นที่ 2 เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วก็ผู้ครอบครองสถาบันสอนการลงทุน ปั้นสื่อออนไลน์ พร้อมกอง บก.ล้วนเป็นอดีต บก.ข่าวสารโพสต์ทูเดย์ เน้นข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน ด้วยทุนสำหรับจดทะเบียน 20 ล้าน

25 ม.ค. รายงานข่าวสารแจ้งว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด

ได้ทำพิธีเปิดสำนักข่าวที่ชื่อว่า เดอะ เบทเทอร์ (The Better) ที่ห้องเพิร์ลโดม อาคารเพิร์ลบางกอก ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจรวมทั้งการลงทุน หลังจากได้เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเพจเป็น The Better news เมื่อวันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2565

แล้วก็เริ่มนำเสนอเนื้อหาไปเมื่อวันที่ 21 เดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

สำหรับ บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด มีนายกันตพร หาญพาณิชย์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

แล้วก็โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล พร้อมกับ นายกระทรวง จารุศิระ ผู้ริเริ่มโครงการซูเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thailand) และก็นายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นกรรมการบริษัท

นายกันตพรกล่าวว่า ตนไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจสื่อตั้งแต่ต้น แต่ปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับนายวุฒิ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักข่าวแห่งนี้ โดยมีสองเรื่องหลักที่อยากเห็น แล้วก็นายวุฒิเห็นพ้องด้วย คือ เราต้องการทำสื่อที่ดียิ่งกว่า เพื่อประเทศไทยที่ดีมากกว่าในอนาคต ซึ่งนายวุฒิมีประสบการณ์ด้านข่าวสารกว่า 30 ปี กับการนำเสนอ
ในช่องทางที่ดียิ่งกว่า ซึ่งเป็นไปตามยุคตามสมัย สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ เดอะ เบทเทอร์

อีกเรื่องหนึ่ง คือ นายวุฒิยืนยันความเป็นกลางของสำนักข่าว

ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของสำนักข่าว การที่สำนักข่าวเป็นกลางนั้นพูดง่าย แต่ความเป็นกลางในความหมายของแต่ละคนบางทีอาจแตกต่าง สำหรับตนไม่ได้หมายความว่าพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่ากันแล้วเรียกว่าเป็นกลาง แต่เป็นการนำเสนอความจริงบนหลักฐานที่ประจักษ์ ไม่มีการชี้แนะของผู้นำเสนอ ซึ่งหมายถึงนักข่าวหรือสำนักข่าว ซึ่งจะมีประโยชน์แก่ประชาชนที่จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจให้เกิดผลดีสูงสุด

ด้านนายกระทรวงกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักกับนายวุฒิหลายปี นับว่าเป็นพี่ชายและก็ผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุด พอรู้ว่านายวุฒิมีไอเดียที่จะทำสำนักข่าวแห่งใหม่ ตนก็เลยสนใจ เนื่องจากว่าในมุมของตนทำสถาบันสอนการลงทุน รู้ว่าคนไทยผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยแสวงหาวิชาความรู้ ตนเป็นคนนึงที่พยายามจะไม่เสพข่าวอาชญากรรม ไม่ชอบอ่านข่าวชาวบ้าน ก่อนหน้านั้นก็จะอ่านข่าวสารเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เอสเอ็มอี เพราะเหตุว่ารู้สึกว่าสามารถพัฒนาตัวเองและมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น

พอเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้ง ก็เลยรู้สึกว่าพวกเราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้มีความรู้มากขึ้น ผ่านการอ่านสื่อที่มีคุณภาพ เมื่อปณิธานของนายวุฒิและตนตรงกัน ก็บอกว่าในมุมของการทำสถาบันสอนการลงทุน มีลูกศิษย์หลายพันคน มีคนที่เก่งในการลงทุนหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จะนำความรู้ทั้งหมดบนโลกที่เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อความต้องการตรงกันก็เลยเป็นพันธกิจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ทุกคนได้มีความคิดเห็นว่าเพราะอะไรต้องพัฒนาความสามารถในตัวเรา เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์

ส่วนนายวุฒิกล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่เจอกับนายกันตพร

ถึงวันที่เริ่มตัดสินใจ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ นายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงเป็นคนสมัยใหม่ที่มีความตั้งใจและเชื่อมั่นในสถาบันสื่อ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองไทยดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตนและทีมงานมีนายทุนหลายกลุ่มเสนอตัวสนับสนุน แต่สุดท้ายก็อยากจะอยู่กับนายทุนแบบใหม่จริง ๆ ที่ตัดสินใจทำธุรกิจโดยไม่ได้แสวงหาผลดีสูงสุดทางธุรกิจ ตนสบายใจที่มาเลือกทั้งสองคน

ดังนี้ สิ่งที่อยู่ในใจก็คือ ตนมีประธานที่ขอความเห็น คือ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อยู่ในวงการสื่อมา 35 ปี ตนมีประสบการณ์ 30 ปี ส่วนน้อง ๆ ประมาณ 25 ปี

ลดหลั่นกันไป ทุกคนทำข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศขนาดนี้ เสียดายว่าเพราะอะไรประเทศไทยหยุดนิ่งอยู่แค่นี้

เพราะเหตุไรความเจริญไม่พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าการเสนอข้อมูลข่าวสารจากสื่อหลายสื่อ สื่อที่ดีมีมาก แต่สื่อที่มีคอนเทนต์แบบมีอคติก็มากมาย สื่อที่บางทีอาจนำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็มี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน ไม่ชัดเจน

ตนได้เรียนกับนายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงตั้งแต่วันแรกว่า หากจะทำสำนักข่าว จะทำสิ่งแรกเป็น เอาข้อพิสูจน์ที่เป็นเรื่องจริงครบถ้วนบริบูรณ์ ให้คนไทยทุกคน ทุกระดับมีสิทธิ์เข้าถึงข้อพิสูจน์อย่างเท่าเทียมกัน แล้วทราบดีว่าความจริงเมืองไทยคืออะไร ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองก็ตาม ทุกคนจะเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาตนเอง ยกระดับคุณภาพของครอบครัว สุดท้าย ธุรกิจเติบโต สังคมไทยดียิ่งขึ้น ประเทศไทยก็จะดียิ่งขึ้น เป็นคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจจะทำ และทีมงานทุกคนตั้งใจที่จะนำเสนอข้อมูลกลุ่มนี้

ทายาทรุ่น 2

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เดอะ เบทเทอร์

สำหรับโครงสร้างของสำนักข่าวเดอะ เบทเทอร์ มีนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อดีตบรรณาธิการอำนวยการเครือบางกอกโพสต์ เป็นประธานที่ปรึกษา มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการบริหาร พร้อมกับ นายวิษณุ นุ่มทอง อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

แล้วก็อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวสารการเมือง

นายชนิกา สุขสมจิตร อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งอดีตหัวหน้าข่าวสารเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวสารเศรษฐกิจ, นายเกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
อดีตผู้สื่อข่าวการเงินหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และอดีตหัวหน้าข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเงิน แล้วก็ น.ส.ดวงใจ จิตต์มงคล เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างสรรค์เนื้อหาข่าวสารเศรษฐกิจและธุรกิจการตลาด

ข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บอกว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ลงบัญชีตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 เดือนตุลาคม 2565 ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์

แล้วก็นายกระทรวง จารุศิระ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการเซ็นผูกพัน มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ หรือ นายกระทรวง จารุศิระ

ลงชื่อร่วมกับ นายกันตพร หาญพาณิชย์ หรือ นางสาวชาลิสา พอใช้ได้ หรือ นางสาวลักษมีลาวัลย์ หาญพาณิชย์ รวมเป็นสองคนแล้วก็ประทับตราสำคัญของบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการโรงพิมพ์ มีสำนักงานที่ซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

แดนนี่ ขึ้นมาแย่งไมค์ นักร้อง

"แดนนี่ บ้านโยก" รับผิดแย่งไมค์ "ขอแบบไม่ได้ขอ" พอจบรายการลำบากถึง "แจ๊ส ชวนชื่น"

แดนนี่ จากกรณี คลิปสุดร้อน ในโลกอินเตอร์เน็ต ที่ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ Wanchai Pokpon ได้โพสต์เล่า เหตุการณ์ ถูกชายหนุ่ม คนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อฮู้ดสีดำ ขึ้นมาแย่งไมค์

นักร้อง ของวง ขณะกำลัง ทำการแสดง ในร้านอาหาร แห่งหนึ่ง และยังไปแย่งเอาเบส มาเล่นบนเวที ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรง มีการด่าทอหนุ่มในคลิปว่า ไร้มารยาท และ

กลายเป็น ประเด็นโต้เถียง รุนแรงขึ้นอีก เมื่อหนุ่มในคลิป ออกมาอัดคลิปลง TikTok โต้ตอบชาวเน็ต ที่เข้ามาด่า พูดว่าผู้ที่ตามด่าทอตนและเพื่อนๆ มีมารยาทมากนักหรือ? มีอะไรก็ให้มาพูดกับตนคนเดียว เพื่อนคนอื่นไม่ได้เกี่ยวด้วย

แดนนี่ บ้านโยก
ล่าสุด รายการโหนกระแส เชิญทั้งสองฝ่ายมากล่าวคุยถึงประเด็นร้อนแรงในรายการ

โดยทางวง เล่าเหตุการณ์ว่า ไปเล่นดนตรี ในผับแห่งหนึ่ง ที่แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จู่ๆพี่ผู้ชาย ในคลิปก็เดินขึ้นเวที แบบไม่บอกไม่กล่าว มาดึงไมค์ไปจากมือ บอกให้ตน อยู่เฉยๆ

และก็เอาไมค์ไปร้องเพลงแบบในคลิป หลังจากร้องจบ ยังไปถาม นักดนตรีในวงว่า เล่นเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม ก่อนจะบอกให้เล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร และมาเอาเบส จากมือเบสไปเล่น แถมยังเล่นผิดคีย์ จนทำให้นักร้อง ร้องตามเพลงไม่ได้

ขณะที่ แดนนี่ RS บ้านโยก หนุ่มแย่งไมค์ ยอมรับผิดว่า ในวันเกิดเหตุ ตนดื่มจนกระทั่งเมา ด้วยความที่ เคยเล่นดนตรี เคยร้องอยู่ที่ร้านของตน

มาก่อน พอทางวง เล่นเพลงที่ชอบ ก็เลยขอขึ้นไปร้อง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นการ “ขอแบบไม่ได้ขอ” ส่วนเรื่องเล่นเบส แดนนี่เล่าว่า ตนไปถาม นักดนตรีว่าเลยเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม เขาก็

บอกว่าเล่นไม่ได้ สุดท้ายถามว่าเล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร ได้ไหม ทางวงพูดว่าเล่นได้ ก็เลยเดินไปขอมือเบสว่า “ขอยืมเบสหน่อย” ยืนยันว่าพูดดีๆโค้งหัวให้ด้วย ซึ่งก็ยอมรับว่าในตอนที่เล่นเบส เล่นผิดคีย์จริงๆ

รายการโหนกระแส

แดนนี่ บอกอีกว่า
หลังจบเหตุการณ์ ในวันดังกล่าว ทางวงเขา ไปโพสต์ต่อว่า ว่าตนไม่มีมารยาท มีชาวเน็ตหลายๆคนเข้ามาด่าทอตน ด่าทอถึงพ่อถึงแม่ หลายๆคนลุกลามไปทักหาเพื่อนตน บอกให้เลิกคบ คนอย่างตน ทำให้ตนโกรธ ทำคลิปออกมาโต้ตอบอย่างที่ทุกคนเห็น ก็ยอมรับว่า ใช้คำพูดที่ไม่ดี แต่ด้วยความที่โมโหก็เลยทำไปแบบนั้น
แต่หลังจากพูดคุยกันในรายการ ทั้งสองฝ่าย ต่างก็เคลียร์กันจนกระทั่งเข้าใจ กล่าวว่าจะไม่ไปแจ้งความ
ฟ้องศาลอะไรกันอีก มีการขอโทษ ขอโพย กันด้วยดี ขณะที่ หนุ่ม กรรชัย ยังทิ้งท้ายในรายการ ฝากถึง ทีมงาน JOKER Family ของ แจ๊ส ชวนชื่น
บอล เชิญยิ้ม และ นุ้ย เชิญยิ้ม ขอให้ทำการคัฟเวอร์เหตุการณ์ในคลิปให้ดูหน่อย เพราะว่ารอดูอยู่

แดนนี่ บ้านโยกรายการโหนกระแส
หนุ่ม กรรชัย กับ แดนนี่ เรื่องเดียวที่ขอ… หลังจบดราม่าแย่งไมค์นักร้อง แจ๊ส-บอล-นุ้ย รับเรื่องด่วน !

เป็นดราม่า ที่ถูกเอ่ยถึง ในโลกอินเตอร์เน็ตไม่น้อยก่อนหน้านี้ กรณีหนุ่มเมา แย่งไมค์นักร้อง – ขอเบสนักดนตรี มาเล่นโชว์ ซึ่งถูกชาวโซเชียล ซัดเรื่อง
มารยาท ก่อนเจ้าตัว จะมีการโต้กลับกับชาวเน็ต จนมีประเด็นต่อ ก่อนที่จะออกมา เปิดใจเคลียร์ประเด็นนี้กัน ในรายการ โหนกระแส วันที่ 23 มกราคม 2566 ซึ่งทั้งหนุ่มแย่งไมค์และทางวงก็ได้ขอโทษกันและกันไปเป็นที่เรียบร้อย

Wanchai Pokpon

โดยหลังจากสิ้นเรื่องดังกล่าว หนุ่ม กรรชัย พิธีกรดัง ก็ได้กล่าวในช่วงท้ายของรายการว่า “สิ่งที่หวัง สำหรับเรื่องนี้ ไม่ได้หวังอะไรนะฮะ
หวังอย่างเดียวนะครับ อยากให้แจ๊ส ชวนชื่น โคฟเวอร์ เหตุการณ์นี้ หน่อยนะครับ พี่รอดูอยู่ บอล เชิญยิ้ม นะครับ ทุกคน คุณนุ้ย หลายๆท่านนะ ผมตามดูอยู่นะ”
งานนี้ทำเอาหลายๆคนอดจับตามองไม่ได้ ขณะที่ บอล เชิญยิ้ม ก็ได้แชร์ ข้อความดังกล่าว ของ หนุ่ม กรรชัย พร้อมข้อความว่า “ได้ครับพี่หนุ่ม จัดให้ครับผม” ซึ่งแฟนคลับต่างก็บอก เป็นเสียงเดียวกันว่า รอดูเลย !

เม พรีมายา

เม พรีมายา เปิดใจหลังเข้ามอบตัว ลั่นพร้อมสู้คดี ยืนยันไม่มีเจตนาหลอกประชาชน

วันที่19 มกราคม เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา)
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือเลียนแบบไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, เพื่อมอบตัวตามหมายจับ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งนำตัวไปสอบปากคำ

เม พรีมายาเปิดใจหลังเข้ามอบตัว ลั่นพร้อมสู้คดี

โดย น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา กล่าวว่า

ตนเองเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี เป็นคนทำงานและพัฒนาตัวเองในทางนี้ โดยยอมรับว่าแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง ตนเองก็พร้อมแก้ไขแล้วก็ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์ความจริง ซึ่งบางอย่างคนทำงานอย่างตัวเอง บางทีก็อาจจะผิดข้อตกลงหรือกฎกติกาบ้าง ก็ไม่ทราบจริง ๆ แต่การันตีว่าไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครในการทำงานทุกวันนี้

ส่วนหลักสำคัญการโฆษณาชวนเชื่อลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น นางสาวพิชญ์นรี ระบุว่า ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ทุกอย่างได้ให้การกับทางตำรวจแล้ว โดยธุรกิจของตนไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง

ขณะที่ นิ่ม เครือข่ายรายใหญ่รวมทั้งคนสำคัญทางภาคใต้ มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องหรือเปล่า ยืนยันว่า ทุกอย่างมีมูลความจริง

เมื่อถาม น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา ถึงใจความสำคัญกำไร

ที่ยื่นต่อพาณิชย์พบว่าไม่สอดคล้องกับที่โฆษณาสื่อโซเชียล และก็เงินลงทุนเป็นเงินผิดกฎหมายหรือเปล่านั้น ยืนยัน ไม่จริง เพราะว่าตนเองทำงานอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้รู้ดีเทลทุกอย่าง แล้วก็จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตนเองไม่สามารถตอบไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ ที่ผ่านมาชีวิตตนเองสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมและคนรอบข้างตลอด

เม พรีมายาลั่นพร้อมสู้คดี

ด้าน พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาแจ้งความร้องเรียน ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโนบายให้ดำเนินการสำรวจเพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินข้อเท็จจริง
กระทั่งได้ไปพบว่า “พรีมายา” เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ตำรวจจึงได้วิเคราะห์แล้วก็หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
จนกระทั่งสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้เมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคม ที่ผ่านมา

รวมทั้งต่อมาพบว่าญาติของ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม ผู้ครอบครองแบรนด์ แล้วก็หนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายจับ กำลังจะออกนอกประเทศ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. สกัดจับ และทางตำรวจไซเบอร์ก็เลยต้องปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน แม้ว่าจะยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องเรียน แต่ก็เป็นการปฏิบัติการก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น

ด้าน พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เผยออกมาว่า พฤติการณ์เป็นการโพสต์ชักชวนลงทุนจำนวนเงิน 6,000 บาท รวมทั้งจะได้กำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับได้ 4 คนแล้ว ส่วนที่เหลือจะรีบจับตัวได้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนี้ก็มีหน้าม้าที่ฯลฯโพสต์ ชวนมาลงทุนจนกระทั่งทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง

ซึ่งตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็บัญชีธนาคารมาพิจารณา ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินใช่หรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีอากรเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับกำไรที่โฆษณา

แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อกล่าวหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจทานเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้ผลกำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงไหม ขณะที่แฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจทานเพจชักชวนลงทุนอื่น ๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูหลักฐานเพิ่มเติมก่อน

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยียืนยันว่า
ที่มีการแชร์เรื่องจะมอบเงินนำจับ 5 แสนบาทให้ผู้แจ้งเบาะแสจับ เม ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีการตั้งเงินนำจับดังกล่าว แต่มั่นใจว่าน่าจะเป็นเฟกนิวส์

ลั่นพร้อมสู้คดี เม

ส่องชีวิตหรูของ CEO “เม พรีมายา”

สวย ร่ำรวย เก่ง กับไลฟ์สไตล์ปังกระทั่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอิจฉาริษยา ทีมข่าวขอพาทุกคนไปส่องชีวิต และไลฟ์สไตล์ของ CEO สาวคนนี้

ซึ่งสาวเม มักจะมีอัปเดตไลฟ์สไตล์สุดหรูหราในอินสตาแกรม ทั้งการเที่ยวต่างประเทศ บินโดยเครื่องบินส่วนตัว ในชุดแบรนด์เนมทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบจัดเต็ม ซึ่งต้องกล่าวว่าเป็นชีวิตที่ทำเอาใครต่อใครต่างอิจฉาริษยาไปตาม ๆ กัน

พื้นเพของ เม พรีมายา เป็นชาว จังหวัดนครศรีธรรมราช
เกิดเมื่อ 31 มีนาคม พุทธศักราช 2537
ครอบครัวมีอาชีพทำสวน เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งว่า เธอเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม ที่ได้สัมผัสเงิน 100 ล้าน ภายในเวลาเพียง 9 เดือน
ความสำเร็จของตนนั้นเกิดจากความขยัน แล้วก็ความเป็นนักสู้ที่เอาชนะทุกอุปสรรค

ดิว อริสรา

ดิว อริสรา โผล่ตอบแบบนี้ หลังเพจดังเปิดอีกมุมคดีพลิก ลั่นอย่าเพิ่งอวยยศ

จากกรณีที่ ดิว อริสรา ออกมาเปิดเผยปล่อยเบาะแสเด็ดฝากตำรวจจัดการที กับเว็บพนันชื่อใหญ่ มาเก๊า888 บอกใบ้มีพี่น้อง 4 คน ผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก พึ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่กำลังจะถึงนี้ อัปเดตปัจจุบันฝ่ายถูกเปิดเผยปิดเว็บชั่วคราว ปิดไอจี เฟซบุ๊ก รูปในงานหายเกลี้ยง แล้วก็หลาย ๆ คนก็ได้โยงไปที่อดีตแฟนหนุ่มของสาวดิว

 

ดิวอริสราแฉ

ปัจจุบันมีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์ว่า

‘มึงอย่าเพิ่งอวยยศว่ามันเป็นกระบอกเสียงให้ ปชช. มันแค่ทะเลาะกับผัวเก่า แค่นั้น’
โพสต์นี้เองสาวดิวได้เห็นแล้ว และตอบคอมเมนต์ชาวเน็ตรายหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นบอกว่า “จะพลิกได้ไง ถึงจะทะเลาะกันจริง แต่เปิดเว็บพนันก็ยังจริงกว่าอยู่ดี” สาวดิวตอบชัด ๆ ได้ใจความว่า “ใช่ค่า”
ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่มีการจัดการอย่างไรถัดไป ต้องรอติดตามกัน

ม้วนเดียวจบ! สรุปแฮชแท็กดิว อริสรา เปิดโปงเบาะแส ครอบครัวเว็บพนันดัง

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังจากดาราสาวชื่อดัง “ดิว” ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Due Arisara” แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ที่กำลังจะจัดงานแต่งงานใหญ่มหึมา คาดจะมีคนวงการเว็บพนันมาร่วมงานพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากทำเว็บพนัน
พร้อมแนะให้ตำรวจช่วยพิจารณา ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าว สาวดิวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้
วันนี้ทีมข่าวจะพาทุกคนไปเกาะติดสรุปเรื่องราวประเด็นร้อนข้างต้น ที่กำลังถูกพูดถึงแบบม้วนเดียวจบ กับสรุปแฮชแท็ก #ดิวอริสรา จะเป็นอย่างไรบ้างตามไปฟังพร้อม ๆ กัน

เมื่อคืนวันที่ 15 มกราคม เฟซบุ๊ก“Due Arisara” โพสต์เดือดชี้เป้าว่า
ครอบครัวหนึ่งทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ มาเก๊า888 มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้ชายล้วน ชื่อเล่น บ.ทั้งบ้าน น้องชายเพิ่งหมั้นวันนี้และกำลังจะแต่งงาน 22 ม.ค.นี้
คาดว่าจะมีคนในวงการเว็บพนันไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า ฝากตำรวจทำงานด้วย แถมสาวดิวยังทิ้งท้ายว่า ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรกผิดกฎหมาย แล้วกล้าจัดงานใหญ่โตโชว์ความรวยที่ได้มาจากการหลอกเงินคนไทย

ดิว อริสรา ทะเลาะกัน ดิว เปิดเผย

อ่านข่าวเอ๊ะยังไง!’ดิว-อริสรา’ โพสต์แจ้งเบาะแสแก๊งเว็บพนันจ่อร่วมงานวิวาห์เจ้าของ ‘มาเก๊า888’

หลังจากโพสต์ดังกล่าวชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่ บ. อดีตคนรักของสาวดิว ซึ่งหลายอย่างตรงกับรายละเอียดที่ดิวโพสต์ อีกทั้งชื่อเล่น บ. มีพี่น้อง 4 คนชายล้วน และก็น้องชายพึ่งจะจัดงานหมั้นหมายวันนั้นพอดี แถมมีเพื่อนของดิวไปร่วมงานอีกด้วย

สำหรับหนุ่ม บ. ทำธุรกิจหลายอย่าง ได้แก่ ผับ ร้านอาหาร เป็นเจ้าของรถซูเปอร์คาร์หลายรุ่น แล้วก็เป็นนักแข่งรถ
เคยคบดูใจกับสาวดิวช่วงปี 2562-2563 ตอนนั้นความรักทั้งสองแฮปปี้จนเกิดแฮชแท็ก ……. ที่ย่อมาจาก “คนดีของใจ”

หลังแล้วปีกว่า ก็มีข่าวเลิกรากัน พร้อมด้วยดิวได้เปิดตัวแฟนใหม่ มันก็คือ เซบาสเตียน นักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ชาวไต้หวัน
ตอนนั้น หลังจากดิวเปิดตัวแฟนใหม่ บ. ก็โพสต์เป็นนัยว่า “ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้าย”
ทำให้คนสงสัยว่าทั้งสองบางทีอาจจบไม่สวย

โพสต์ของดิวกลายเป็นไวรัลไวรัล จนพี่น้องบ.ได้ปิดโซเชียลทันทีหลังเกิดเรื่อง ด้านเจ้าสาวก็ปิดไอจีด้วยด้วยเหมือนกัน เพื่อน ๆ ที่ไปร่วมงานแต่งงานรวมไปถึง
ออแกไนซ์พากันลบรูปงานหมั้นหมาย บางคนตั้งไอจีเป็นไพรเวท หลังแล้วหลังจากนั้นไม่นานด้าน “หนุ่ม กรรชัย” ได้พูดว่างานแต่งถูกเลื่อนออกไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ด้านโฆษกตำรวจออกมายอมรับว่า เรื่องเว็บพนันเจ้านี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วรวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม
แต่ยังไม่การันตีว่าเกี่ยวเนื่องกับคนที่ดิวชี้เป้าหรือเปล่า

ย้อนสัมพันธ์ ดิว – เบนซ์ เดม่อน จากรักหวานก่อนจบไม่สวย ล่าสุดมีข่าวใหญ่หูผึ่ง

ย้อนสัมพันธ์ ดิว อริสรา เบนซ์ เดม่อน จากคนดีของใจ รุ่นพี่ที่รู้จัก เลื่อนสถานะเป็นคนรัก ไม่มีรูปคู่แต่อยู่ด้วยกัน สุดท้ายจบไม่สวย
ดิวเปิดตัวคบเซบาสเตียน ส่วนเบนซ์โพสต์ มีแต่คนโง่ที่อยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง

เป็นข่าวใหญ่หูผึ่งกันเป็นจริงเป็นจัง เมื่อสาวดิว อริสรา ออกมาโพสต์แฉเว็บพนันโด่งดัง ว่า
คนที่อยู่เบื้องหลังเว็บนั้นกำลังจะจัดงานแต่งงาน และงานนี้จะเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของแวดวงเว็บพนัน จนถึงมีคนไปขุดประวัติกันมาก
พร้อมทั้งโยงไปถึงเบนซ์ เดม่อน อดีตคนรักของดิวก่อนที่ดิวจะมาเจอกับ เซบาสเตียน ลี

ดังนี้ดิว อริสรา ได้เริ่มเผยเรื่องราวความรักของดิวแล้วก็เบนซ์ เดม่อน ผ่านทางไอจี
ซึ่งเวลาที่ดิวไปถ่ายภาพ ก็มักจะติดแฮชแท็ก #kdkj ที่ย่อมาจาก คนดีของใจ จนกระทั่งผู้คนจำนวนมากจับตา ถึงกระนั้นภาพคู่ของดิวและเบนซ์ ก็มีเพียงแค่รูปเบนซ์มองเห็นหน้าครึ่งเดียว ไม่มีภาพคู่หวือหวาออกมา จะมีก็แค่ภาพเดี่ยวไปคอนเสิร์ต ที่ดูก็รู้ว่าไปด้วยกัน

 

ดิว แฟนเก่า

ดิว อริสรา ยอมรับ เบนซ์ เดม่อน เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่ไฮโซ คบหากันเป็นปี จากรุ่นพี่สู่คนรู้ใจ

ด้านผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ได้เข้าไปตามสืบ และก็พบว่า เบนซ์ เดม่อน ทำงานเป็นนักธุรกิจ มีรถหรูฟู่ฟ่า แต่งตัวด้วยแบรนด์เนม
และเมื่อดิวได้ไปออกงานอีเวนต์ ก็ได้ยอมรับว่า เบนซ์เป็นนักธุรกิจ นักถ่ายภาพ แต่ไม่ใช่ไฮโซ ดิวคบหากับเบนซ์ในเป็นปี จากการที่ เบนซ์ เคยเป็นรุ่นพี่ จนกระทั่งตอนนี้ไม่ใช่ เวลาไปไหนเขาก็จะชอบถ่ายภาพให้ดิว ส่วนดิวก็ชอบถูกถ่ายภาพ รูปใส่บิกินี่ชุดที่มีไว้สำหรับใส่ว่ายน้ำเขาก็ช่วยสแกนให้ หากเขาไม่ให้ผ่านก็ไม่ลง ส่วนเรื่องรูปคู่เห็นหน้าเบนซ์ชัด ๆ ก็แล้วแต่โอกาสจะได้ลง เพื่อน ๆ เองก็รับทราบการมีอยู่ของเบนซ์ ทุกคนแฮปปี้ที่ดิวมีความสุข

นอกเหนือจากนั้น ดิวยังเคยยอมรับว่า มีความรักก็คาดหวัง ความรักกับเบนซ์ก็มองกันมากกว่าวันนี้ แต่บางทีก็อาจจะ
ไม่ถึงขนาดแต่งงาน คุยกันตลอดว่าไม่ได้คบกันเอาแค่วันนี้ ตอนนั้นดิวอายุ 30 ปี คนที่เข้ามาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่คบกันเพื่อเลิกอยู่แล้ว

ล่าสุดฝ่ายถูกแฉปิดเว็บชั่วคราว

ดิว อริสรา เลิกกับเบนซ์ เดม่อน ไปคบ เซบาสเตียน เลิกรากันไม่ดี ทิ้งแคปชั่นไอจีไว้อย่างจี๊ด

จนกระทั่งสุดท้าย มีข่าวว่าดิว อริสรา เลิกรากับเบนซ์ เดม่อน เพราะต่างคนต่างอันฟอลโลไอจีซึ่งกันและกัน แล้วก็แล้วต่อจากนั้น ก็มีภาพของดิว ที่ถ่ายรูปคู่กับ เซบาสเตียน ลี สามีคนปัจจุบัน รวมทั้ง ภาพที่ดิว และเซบาสเตียน
ส่งพวงหรีด ไปงานศพงานหนึ่ง โดยใช้ชื่อคู่กัน หรือภาพที่ทั้งดิวและก็เซบาสเตียนไปดินเนอร์

ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีคนที่จับสังเกตได้ว่า ความเกี่ยวข้องของดิว
และก็เบนซ์ น่าจะจบกันตั้งแต่ที่ดิวกล่าวว่าไอจีโดนแฮก แล้วรูปหายหมด รวมไปถึงแฮชแท็ก #kdkj ก็หายไปด้วย ซึ่งมีคนบอกว่า ดิวนอนที่โรงพยาบาล แต่เบนซ์ไปเที่ยว เลยบางทีอาจเป็นเหตุให้เลิกราและลบรูปออกไป แต่ตอบนักข่าวว่า โดนแฮกไอจี

เท่านั้นยังไม่พอ เบนซ์ เดม่อน ยังโพสต์ใจความส่งท้ายให้กับความรักในครั้งนี้ว่า
“ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละ ที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง”

R'Bonney Gabriel มิสยูนิเวิร์ส 2022

พูดดีมงลง รวมคำตอบของ "มิสยูนิเวิร์ส 2022" ที่ทำให้ฟาดมงกุฎ 200 ล้านไปครอง

“R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากอเมริกา เป็นสาวงามผู้คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2022 ครั้งที่ 71 ไปครอง โดยมงกุฎนั้น มีมูลค่าถึง 200 ล้านบาท ซึ่งนับได้ว่าเป็นมงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สำหรับความสวยของ R’Bonney Gabriel เรียกว่า ไม่ค้านสายตา แต่ก็มีการกล่าวกันว่า สำหรับในการตอบคำถามของเธอนั้น เธอทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นรอบกวาดคะแนนโค้งสุดท้าย ซึ่งเราได้เก็บรวบรวมคำตอบของเธอ ตั้งแต่รอบ Top 5 มาจนกระทั่งรอบ Top 3 ก่อนจะประกาศผลของการตัดสิน มาให้ทุกคนได้มีโอกาสเดินทางสำรวจความคิดเห็นของมิสยูนิเวิร์ส 2022 คนปัจจุบันคนนี้กัน

คำถามในรอบ Top 5 เป็นการตอบคำถามจากการเลือกคำถามของตัวนางงามเอง และก็ มีเวลาตอบ 30 วินาที โดย R’Bonney Gabriel เลือกได้คำถามจาก Mara Martin หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน โดยคำถามคือ

Mara Martin : การประกวดมิสยูนิเวิร์สก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ได้ให้โอกาสให้คุณแม่ รวมทั้ง ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เข้าประกวดได้ อะไร คือ ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่คุณอยากมองเห็น แล้วก็ เพราะอะไร

R’Bonney Gabriel : เรื่องอายุนางงาม สิ่งที่เป็นโค้ดเด็ดของฉัน คือ “ถ้าเกิดไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน” อายุไม่ได้เป็นตัวกำหนด เราต้องลงมือทำตอนนี้ ไม่ต้องรอ

สำหรับคำถามในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นคำถามจากองค์กรนางงามจักรวาล แล้วก็ ใช้คำถามเดียวกันกับนางงามผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย โดยแต่ละคนมีเวลาตอบคำถาม 30 วินาที (ไม่รวมล่าม ถ้าหากเลือกใช้ล่าม) ซึ่ง R’Bonney Gabriel เธอนั้น ก็ตอบคำถามได้ดีอีกเช่นเดียวกัน

คำถาม : ถ้าหากได้รับตำแหน่ง MU 2022 ในปีนี้ คุณจะดำเนินงานอย่างไร เพื่อสนับสนุนพลังอำนาจขององค์กรนางงามจักรวาล แล้วก็ ความก้าวหน้าขององค์กรฯ

น้ำตาล ชลิตา

“น้ำตาล ชลิตา” โพสต์ถึง “แอนนา เสืองามเอี่ยม” หลังตกรอบมิสยูนิเวิร์ส 2022

“แอนนา เสืองามเอี่ยม ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามของประเทศไทย เข้าร่วมประกวด Miss Universe 2022 แม้ในที่สุด เธอจะพลาดไม่ผ่านเข้ารอบการแข่งขัน แต่ว่าทุกคนคงจะมองเห็นแล้วว่า เธอตั้งใจ มุ่งมั่น และก็ เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ตลอดมานั่น จึงพูดได้ว่า เธอทำดีที่สุดแล้ว

“น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามประเทศไทย สำหรับการแข่งขันมิสยูนิเวิร์ส 2016 แล้วก็ เธอก็สามารถผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย นั่นก็เท่ากับว่า เธอเป็นนางงามรุ่นพี่ของแอนนา

แม้ก่อนประกวดรอบตัดสินเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดกระแสดราม่าขึ้น เนื่องจาก น้ำตาล ได้มีการโพสต์ข้อความคาดการณ์ Top 5 ของเวที Miss Universe 2022 แต่กลับไม่มีชื่อของแอนนา นั่นก็เลยให้ชาวโซเชียลเข้ามาคอมเมนต์กันจำนวนมาก และก็

ถัดมา น้ำตาล ก็ออกมาโพสต์จัดการประเด็นดังที่กล่าวถึงแล้ว ไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด น้ำตาล ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “น้องเก่งมาก น้องทำหน้าที่ตัวแทนได้ดีมากๆ น้องชนะใจคนไทยทุกคน เป็นกำลังใจให้น้องกัน @annasnga_1o”

แล้วก็ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ได้มีการโพสต์ว่า “หนูเก่งมาก”

นับเป็นกำลังใจจากรุ่นพี่นางงามที่น่าชื่นชม

แอน จักรพงษ์

ทรงพลังอย่างแรง “แอน จักรพงษ์” กับสปีชหยุดโลกบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2022

การแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 71 ณ นิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เสร็จสิ้นไปแล้ว คนจำนวนมาก โฟกัสไปที่ Miss Universe 2022 คนล่าสุด นั่นก็คือ “R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากอเมริกา ซึ่งเราก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง

อย่างไรก็แล้วแต่ เพราะเหตุว่า ในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ก็เกิดขึ้นกับองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) เนื่องจากว่า คนที่เป็นเจ้าของคนใหม่ก็คือ”คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์”

ซึ่งถือเป็นหญิงคนแรกที่ครององค์กรนางงามจักรวาล และ บนเวทีแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ครั้งนี้ เธอก็ขึ้นไปพูดสุนทรพจน์ทรงพลัง และก็ นับเป็นสปีชหยุดโลก ซึ่งเชื่อว่า จะถูกใจผู้หญิง รวมทั้ง ชาวโลกทุกคน โดยมีเนื้อหาว่า

“ฉันรักทุกคน ขอบคุณทุกคนที่มา เป็นเวลา 70 ปีแล้ว ที่องค์กรนางงามจักรวาลถือครองโดยผู้ชาย หมดเวลายุคของผู้ชาย ผู้หญิง ควรเป็นผู้นำ ถึงเวลาของผู้หญิงที่จะขึ้นบังเหียน และจากนั้นก็เป็นผู้นำ ขอต้อนรับสู่แพลตฟอร์มใหม่ จะผลักดันพลังของผู้หญิงทั่วทั้งโลก

นำโดยผู้หญิง โดยผู้หญิงข้ามเพศ เพื่อหญิงทุกคน เพื่อเฉลิมฉลองพลังแห่งสิทธิสตรีนิยม ความแตกต่างหลายด้านวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจ สังคมที่ไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง ความทัดเทียมทางเพศ ความสวยงามแห่งมวลมนุษยชาติ เมื่อครั้งที่ฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ฉันก็ถูกบูลลี่ และ ถูกคุกคามทางเพศ เคยถูกไม่ยอมรับจากสังคม

เพราะเหตุว่า พวกเขาเหล่านั้น ไม่ต้องการที่จะอยากโอบอุ้มความแตกต่างกันหลากหลาย แต่คุณทราบไหม…ฉันรักคุณ จากส่วนลึกของหัวใจ เพื่อที่จะไม่ยอมแพ้ ฉันเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดรวดร้าวให้เป็นพลังอำนาจ

รวมทั้ง เปลี่ยนแปลงบทเรียนเหล่านี้ในชีวิต ให้กลายเป็นสติ และ ปัญญา เวทีแข่งขัน Miss Universe จะช่วยยกฐานะผู้หญิงทุกคนให้เข้มแข็งมากพอ ดีพอ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และ ผู้หญิงจะไม่ถูกใช้เป็นวัตถุอีกต่อไป

นั่นก็เป็นที่มาของการที่ทำไม ฉันถึงได้ชี้แนะแนวความคิดนี้ ในฐานะของเจ้าของ ภาวะการเป็นผู้นำ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลักดันให้เกิดชุดคุณค่าที่ยั่งยืนขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส แล้วก็ เป็นมรดกส่งต่อในฐานะแสงนำทางไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอนาคต”

โดยบรรยากาศระหว่างการขึ้นพูดสุนทรพจน์นั้น เต็มไปด้วยเสียงร้องชื่นชมที่แอน จักรพงษ์ ขึ้นมากล่าวแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอให้ชาวโลกรับรู้

จิ๊บ คีตภัทร

แฟนคลับสุดคิดถึง เปิดภาพปัจจุบัน ‘จิ๊บ คีตภัทร’ นางเอกดังที่สวยเด่นไม่เปลี่ยนแปลง

จัดเป็นอีกหนึ่งดาราหนังสาวสวยที่คนจำนวนไม่น้อยหลงใหลเธอหนักมาก สำหรับสาว จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ฝากผลงานสุดปังเอาไว้อย่างมากมาย อาทิเช่น กามเทพลวง, กว่าจะรู้เดียงสา, หมอผีไซเบอร์, เบญจา คีตา ความรัก ฯลฯ แม้ในเวลานี้เธอจะไม่ค่อยส่งผลงานแสดงออกทางจอให้ได้ดูกันเท่าไหร่ แต่บอกเลย แฟนๆรักเธอ และนึกถึงหนักมาก

งานนี้เราเลยไม่พลาด เชื้อเชิญทำความรู้จักสาว จิ๊บ เบาๆและพาไปชมรูปสวยๆของสาวจิ๊บกัน ที่บอกเลยว่า เธอสวย หุ่นดี และเด่นไม่เปลี่ยนแปลงเลย โดยสาวจิ๊บเกิด|วันที่ 21 พ.ย. พ.ศ. 2527 เป็นผู้แสดงคนประเทศไทยในสังกัดนักแสดงวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว อันติมานนท์ เป็นดาราสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้แสดงฝ่ายชายคือ จิม เจจินตัย แวนดิว

จิ๊บ มีผลงานเรื่องแรก ตัวอย่างเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกใน ละครหลังข่าว เรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่ง ละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้ คีตภัทร เป็นนักแสดงที่รู้จักกัน และเป็นที่รู้จักในสมัยนั้น ต่อมา คีตภัทร รับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทเป็นนางร้าย และเป็นดาราหนังที่มีคุณภาพ และมีความสามารถ ด้านการแสดงอีกมากมายนั่นเอง

โดยหลังจาก จิ๊บ เบาๆงานในวงการบันเทิงไป จากทางหน้าจอ ก็ทำเอาแฟนคลับนึกถึงหนักมาก พากันมาส่องไอจีของเธอ และบอกรัก บอกคิดถึง รวมทั้งส่องชีวิตสุดปังของเธอ กันอย่างมากมาย

จิ๊บ คีตภัทร เปิดภาพปัจจุบัน

​​ทำความรู้จัก สวยเก่งครบสูตร จิ๊บ คีตภัทร อดีตนางเอกดังสมัย 90

เป็นอีกหนึ่งศิลปินสาวสวย ที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานมากๆสำหรับ จิ๊บ คีตภัทรน้องสาวของศิลปินหนุ่มหล่อ จิม เจจินตัย อันติมานนท์ โดยทั้ง จิ๊บ และ เจจินตัย เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายในสมัย 90 หากใครเคยเห็นละครดังช่อง 7 อย่างเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก หรือ กว่าจะรู้เดียงสา มั่นใจว่าต้องคุ้นหน้า จิ๊บ คีตภัทรวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จักจิ๊บ คีตภัทร กันอีกที เผื่อผู้ใดที่ยังไม่ทราบ หรือ จำสาวคนนี้มิได้

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ

กำเนิดเมื่อวันที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2527

เป็นผู้แสดงชาวในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

จิ๊บ คีตภัทรเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์

จิ๊บ เป็นผู้แสดงสาวคนประเทศไทยซึ่งเป็นน้องสาวของ ดาราชายคือ จิม เจจินตัย อันติมานนท์

สำหรับเรื่องของการเข้าวงการบันเทิงของจิ๊บ คีตภัทร นั้น เธอเริ่มเข้าวงการสายบันเทิงไทย เป็นนักแสดงในสังกัดศิลปินวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

และส่งผลงานเรื่องแรกได้แก่ กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในหน้าที่ แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่งละครเรื่อง ลูกหลง ซึ่ง จิ๊บ ส่งผลงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณเป็นนักแสดงที่รู้จักกัน และมีชื่อในยุคนั้น และอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักเป็นเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก ซึ่ง จิ๊บ รับงานละครหลายๆเรื่องและเป็นการสลับบทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ และมีความสามารถด้านการแสดงอย่างมากมาย

พักหลังๆเธอได้เฟดตัวออกจากวงการบันเทิง และยังดำเนินการมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกเหนือจากนี้ จิ๊บ ยังเป็นพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารไทย ที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย จะต้องพูดว่า สาวคนนี้ ทั้งสวย มากความสามารถ ครบสูตรจริงๆ

จิ๊บ คีตภัทร ปัจจุบัน

“จิ๊บคีตภัทร” จ่อฟ้อง! สับเละคนปล่อยข่าว นางเอก จ. กระทบครอบครัว-แฟน

หลังจากที่ผู้ใช้ ติ๊กต๊อก รายหนึ่ง ได้ออกมาเผยเนื้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิปแบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็วๆ นี้เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน”

ต่อมา ก็ได้โพสต์อีกว่า “โดนแล้ว! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเองที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที เห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่นไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

จนกระทั่งทำให้ชาวเน็ตแอบเดากันไป ต่างๆนานา ว่าอดีตนางเอกจ. ช่องหลากสีเป็นใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นแอบมีคนผุดชื่อขึ้นมา ว่าใช่ “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” ผู้แสดงสาวสมัย 90 หรือเปล่า ทำให้วันนี้ (13 ม.ค.) เจ้าตัวจะต้องรีบออกมาแจกแจงผ่านไอจี ว่าตนเองไม่ใช่คนภายในข่าวอย่างแน่แท้ พร้อมจะฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิและ ความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

อ.รินลดา

อาจารย์รินลดา ยอมรับปมหวยทิพย์ กลางโหนกระแส ลีน่าจัง โฟนอินวุ่น รอเพชรพันปีแถลงเคลียร์

อาจารย์รินลดา โหนกระแสวันนี้ สุดอลเวง หวยทิพย์ 24 ล้าน ไม่จบง่าย ณวัฒน์ เตรียมตัวฟ้อง ลีน่าจัง สัมภาษณ์ชี้แจงกันจนโอละพ่อ อาจารย์รินลดา หมอดูรับผิดมีการจัดฉาก วอน เพชรพันปี ออกมาพูดเรื่องจริง

ตามกันต่อกับคดีมหากาพย์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทิพย์ จัดฉากถูกรางวัล 24 ล้านบาทกับกรณีล่าสุดของดราม่า ลอตเตอรี่ออนไลน์หงษ์ทอง กับ หมอดู รินลดา ชัยหมื่น, โอ๊ต เพชรพันปี เจ้าของร้านเครื่องเพชร PW Gems & Diamond และบิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ดาราชายที่พึ่งถูกช่อง 7 ประกาศปลดฟ้าผ่า

มาวันนี้ในรายการโหนกระแสของ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้เชิญ อาจารย์รินลดา และผู้เสียหายซึ่งออกมาอ้างถึงว่าได้ตกเป็นผู้เสียหายเนื่องจากถูกหลอกขายเพชรทองปลอมจากทางร้านเพชรดังกล่าว มาร่วมกันให้ข้อมูล

อ.รินลดา ยอมรับปมหวยทิพย์

อาจารย์รินลดา นักพยากรณ์ กล่าวว่า

จุดเริ่มต้นที่รู้จักคุณเพชรพันปีเพราะได้ไปซื้อนาฬิกาหรูยี่ห้อ ปาเต็กฟิลลิปส์ ในราคา 3 แสนกว่าบาท แต่พอเอาใบรับรองไปให้ศูนย์เช็ก เจอว่านาฬิกา กับใบ Certification ไม่ตรงกัน แต่ว่าทางศูนย์ไม่ได้พูดว่าแท้หรือปลอม ส่วนเรื่องถูกรางวัล 24 ล้านบาท คุณรินลดา มั่นใจว่า ทางเพชรพันปีนั้นมีการวางแผนถูกกรางวัล เพราะย้อนไปเมื่อปี 2564 ก็เคยอ้างว่าถูกรางวัลมาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งในช่วงเวลานั้นก็มีการให้ทางฝั่งของคุณรินโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กจนถึงมีคนเข้ามาถามคำถามว่าถูกจริงไหม แต่ว่าตอนนั้นเจ้าตัวก็ชี้แจง ทางร้านเพชรเป็นผู้ที่ถูกรางวัล

กระทั่งล่าสุดที่เกิดเรื่องเมื่อปีที่ผ่านมา เริ่มจากร้านเพชรโพสต์รูปว่าถูกรางวัลที่ 1 อีกรอบ คุณรินก็เลยหลงเชื่อว่าเขาดวงปังจริงจากยนั้นจึงเป็นคนพาบิ๊กเอ็มไปหาคุณเพชรพันปีจริงเพราะอดีตพระเอกดังมาซื้อสบู่สายมูของเธอล็อตใหญ่ โดยยื่นข้อแม้ว่าต้องพาบิ๊กเอ็มมาพบเขา

ส่วนที่อ้างว่าถูกหวย 24 ล้าน ฝั่งคุณโอ๊ตกล่าวว่า เขาซื้อเองจากหงษ์ทอง 4,000 ใบ แล้วถูก 24 ล้าน โดยสัญญาว่าจะให้ทางคุณรินลดา 1 ใบ ให้บิ๊กเอ็มอีก 1 ใบ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เงิน มีภาพที่ตนหอบกระเป๋าไปรับเงินที่ร้านเพชร ในที่สุดก็หอบกระเป๋าเปล่ากลับบ้าน เพราะเขาบอกให้กลับบ้านก่อน แต่ก็ไม่ได้เงินกลับมา

ยอมรับปมหวยทิพย์

อาจารย์รินลดา กล่าวอีกว่า

ส่วนที่ตนผิดตนยอมรับผิด ตนรับรู้ว่าจะมีการล็อกรางวัลที่ 1 ให้ตนกับบิ๊กเอ็ม แต่ก็ไม่ได้เงินจริงๆส่วนเรื่องที่ว่า รางวัลที่ 1 ทิพย์ เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาหรือไม่ ตนเพียงสงสัยว่าบางทีอาจจะเป็นแบบงั้น เพราะว่ามาย้อนนึกถึงเรื่องราวตั้งแต่รู้จักกับคุณเพชรพันปี มั่นใจว่าเขาอาจแต่งเรื่องว่าถูกสลากกินแบ่งมาตั้งแต่ปี 2564 เพื่อหลอกตนมาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้

ในเวลาที่ อดีตพนักงานของร้านเพชร โฟนอินมาในรายการ เผยในมุมของตนเองว่า เรื่องลอตเตอรี่ 24 ล้านบาทที่อ้างว่าคุณเพชรพันปีถูกรางวัลเป็นการจัดฉากเตี๊ยมกันกับฝั่งของหงษ์ทองก่อนที่จะหวยจะออก ผู้ที่ทราบเรื่องรางวัลที่หนึ่งทิพย์นี้ ประกอบด้วย หงษ์ทอง, คุณเพชรพันปี, อ.รินลดา และ บิ๊กเอ็ม ส่วน ลีน่า จัง อดีตพนักงานกล่าวว่าถูกว่าจ้างมาให้ปั่นกระแส ด่าทอคนนู้น คนนี้

ด้าน ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่โฟนอินมาจากสหรัฐฯ เพราะว่าอยากจะบอกกับ อ.รินลดา ว่า อยากให้ออกมายอมรับความจริง ว่าตนรู้เรื่องรางวัลที่ 1 จัดฉากมาตั้งแต่แรก ไม่ใช่ยอมรับเพียงแค่ว่า ทราบแต่ไม่สนับสนุน เพราะพฤติกรรมจากหลักฐานการพูดคุยในแชตสนทนาซึ่งมีการนัดกับคุณเพชรพันปีอย่างเปิดเผย

โหนกระแส

ตอนที่ ลีนา จังจรรจา หรือ “ลีน่าจัง” เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ที่ถูกอ้างอิงว่ารับเงิน รับจ้างด่ามิสแกรนด์ ก็เข้าสายมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ส่วนที่กล่าวหาว่าเธอตามด่าอิงฟ้า ยืนยันว่าไม่ได้เกลียดกัน เป็นสไตล์ของเธอที่อยากจะปั้นใครให้ดัง จะต้องด่าทอส่วนที่รับเงิน 1.5 แสน เป็นการรับงานในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ ไปไลฟ์โปรโมตร้านค้าเท่านั้น

ทั้งนี้ในรายการ กรรชัย ได้แจ้งว่า ทีมงานพยายามติดต่อไปหา คุณโอ๊ต เพชรพันปี โดยต่อสายไปแล้ว แต่ว่าทางเจ้าตัวไม่สะดวกเข้าสาย โดยแจ้งกลับมาว่าจะขอออกมาให้ข่าวทีเดียวเลย

ทั้งนี้ทั้งนั้นในรายการโหรกะแสของกรรชัยวันนี้จะไขข้อข้องใจปมหวย ทิพย์ 24 ล้านบาทแล้ว ฝั่งผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าของทางร้านเพชรพันปี ก็ได้นำหลักฐานต่างๆมาร้องเอาผิดพร้อมทั้งถามหาข้อชี้แจงจากทางร้านเพชรด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม66) กลุ่มผู้เสียหายและ ทนายรณณรงค์ แก้วเพช จะไปร้องทุกข์ที่ ปคบ. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค

 

ลูกชายเพชรพันปี อัดคลิปแฉ หวย 24 ล้านไม่ถูกจริง

ยืนยันทั้งหมดที่พูดเป็นความจริง ลูกชายเพชรพันปีอัดคลิปยันพูดความจริง ทำคดีหวยทิพย์วุ่นกันต่อ ลูกรั้านเพชรย้ำชัดไม่ขอเข้าข้างใคร หวย 24 ล้านไม่ถูกจริง ทั้งหมดทุกอย่างถูกเซ็ตขึ้นมาเพื่อโปรโมตหวยออนไลน์หงษ์ทอง

ตามกันต่อกับคดีมหากาพย์ รางวัลที่ 1 ทิพย์ ที่เรื่องราวดราม่าลุกลามมาถึงเคส หวย 24 ล้านบาทของทางคุณเพชรพันปี เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง อ้างได้แจกหวยรางวัลที่1จำนวน 1 ใบ ที่ถูกรางวัลให้กับ บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ แต่ต่อมา บิ๊กเอ็ม ยอมรับว่าไม่ได้ถูกรางวัลดังกล่าวจริง ทำให้ต่อมาต้นสังกัดช่อง 7 ก็ประกาศยุติสัญญากับพระเอกดังจนถึง เพชรพันปี ออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตา วอนผู้ใหญ่ช่อง 7 ได้ให้โอกาส บิ๊กเอ็ม เนื่องจากผู้ที่ผิดนั้นก็คือเธอเองไม่ใช่พระเอกหนุ่ม

ต่อมาปมของเรื่องราวก็ยังคงมีประเด็นให้จะต้องกลับมาสนใจกันอีกที เมื่อล่าสุด ลูกชาย โอ๊ต เพชรพันปี เจ้าของร้านเพชรได้ออกมาอีดคลิปชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกรณีหวย 24 ล้าน ระบุ ไม่ได้ถูกรางวัลจริง

ลีน่าจัง

“ผมมีหลักฐานทุกอย่างว่าถูกหวย 24 ล้าน ไม่เป็นความจริง เป็นการเซตขึ้นมาเพื่อการตลาด โดยมีหงษ์ทองเป็นผู้นำเงินมามอบเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ โดยมีคุณแม่ผมร่วมด้วย และ อ.รินลดา หมอดูพยากรณ์ รู้เห็นเป็นใจมาก่อน แนะนำแม่ผมให้ฝันเป็นเรื่องเป็นราว และเอาบิ๊กเอ็มมาเกี่ยวข้อง จะได้โปรโมตเพื่อการตลาดมากขึ้น ซึ่งคุณรินทำคลิปรับเงิน 6 ล้าน ที่โรงงานคุณแม่ผม โดยจะนำคลิปมายืนยันว่าถูกจริง คุณลีน่าจังก็รู้ว่าไม่ได้ถูกจริง ทำหน้าที่รับจ้างคอยเชียร์ คอยชม คอยด่า เขาจ้างคุณ คุณก็ทำเพื่อเงิน คุณก็พูดไปเรื่อย ส่วนหงษ์ทอง มีหน้าที่ไปฟ้องคุณณวัฒน์ 100 ล้าน” ลูกชายเพชรพันปีกล่าวในไลฟ์

“จากนั้นคุณรินได้มีการนัดแนะหงษ์ทองและมิสแกรนด์ เรื่องบิ๊กเอ็ม แม่ผมไม่เกี่ยวข้อง เรื่องของบิ๊กเอ็ม อ.ริน พามา ถ้าจะหาความบริสุทธ์ให้บิ๊กเอ็ม อ.ริน ต้องรับผิดชอบเองนะครับ เรื่องนี้เป็นความจริงและมีหลักฐานถ้าตอนนี้ทุกคนออกมาสารภาพความจริงทั้งหมดด้วยความเคารพ”

“สุดท้ายนี้ผมยินดีให้ความร่วมมือกับผู้เสียหาย ผมไม่ขออยู่ข้างใครทั้งนั้น ผมอยู่ข้างความจริง แม่ผมมีส่วนผิด ผมก็ต้องพูด ขอร้องผู้ที่รู้เห็นออกมาพูดความจริงด้วยครับ เรื่องนี้ทำให้มีบางคนขุดคุ้ยเรื่องของครอบครัวคุณพ่อผม คนรอบข้างผม และตัวผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ผมเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ในฐานะลูกผมยอมรับไม่ได้เช่นกัน ผมขอยืนยันว่า 24 ล้าน ไม่ถูกจริงครับ ผมขอยืนยันว่าทั้งหมดที่ผมพูดเป็นความจริงครับ” ลูกชายเพชรพันปี ระบุ